[รีวิว] การขอวีซ่า (VISA) ท่องเที่ยวไปไต้หวัน

แม้ว่าในช่วงปี 2558 จะมีกระแสข่าวๆ หลายๆ กระแสว่า ทางไต้หวันกำลังจะยกเลิกการขอวีซ่าแล้ว แต่ปัจจุบันการเดินทางไปยังประเทศไต้หวันยังต้องขอวีซ่าอยู่ครับ ซึ่งเป็นงานอีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเราต้องทำก่อน หากไม่มีวีซ่าก็เข้าประเทศเค้าไม่ได้ครับ

สำหรับการขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปไต้หวัน จะต้องขอผ่านหน่วยงานที่ชื่อ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (Taipei Economic and Cultural Office in Thailand) ซึ่งในเว็บไซต์จะอยู่ในหัวข้อ Consular Division > Visa Services ของหน่วยงานนี้อธิบายไว้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว วันนี้ผมเลยรวบรวมข้อมูลการขอวีซ่าสำหรับเดินทางท่องเที่ยวในไต้หวัน

ข้อควรระวัง: ข้อมูลการขอวีซ่าไต้หวัน มีการ Update อยู่เสมอ !! โปรดศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ของ สำนักงานเศรษฐกิจฯโดยตรงนะครับ 

คำศัพท์ที่ต้องรู้จัก

Taiwan มีชื่อประเทศเต็มๆ ว่า Republic of China (ROC) เอกสารในการขอวีซ่าส่วนใหญ่จะใช้คำว่า ROC ครับ

ใครบ้างที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า

นักท่องเที่ยวจากอินเดีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซียที่ถือวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ หรือ ใบถิ่นที่อยู่ถาวร ของประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อังกฤษ เขตเชงเก้น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และไม่เคยถูกว่าจ้างเป็นแรงงานต่างด้าวในไต้หวัน มีสิทธิ์ที่จะได้รับ Visa exemption program ซึ่งสามารถพักอาศัยได้ไม่เกิน 30 วัน โดยต้องลงทะเบียนเอกสารและข้อมูลส่วนตัวผ่าน

"Online Application for R.O.C. (Taiwan) Travel Authorization Certificate"
https://niaspeedy.immigration.gov.tw/nia_southeast/
ของ R.O.C. National Immigration Agency  เพื่อรับรองการอนุญาตเข้าประเทศให้เรียบร้อยก่อนเดินทางมายังไต้หวัน หลังจากที่กรอกข้อมูลเรียบร้อย ให้ พิมพ์เอกสารรับรองนี้ออกมาด้วยครับ

ส่วนใครที่หาข้อมูลใน Google แล้วเจอว่าให้ลงทะเบียนผ่าน Advance Online Registration System for the Visitors of Nationals from Five Southeast Asian Countries to Taiwan ตอนนี้ให้อัพเดทตามข้อมูลข้างต้นนะครับ

อ้างอิงจาก (ข้อมูลวันที่ 8/12/2015)  http://www.boca.gov.tw/ct.asp?xItem=6464&ctNode=868&mp=2

เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

1. เตรียมเงินค่ายื่นวีซ่า 1,500 บาท ครับ (สำหรับการขอแบบ Single หากต้องการขอแบบ Multiple จะต้องเสียค่ายื่นวีซ่า 3,000 บาท สำหรับคนที่เดินทางไปครั้งแรก แนะนำให้ลองยื่นแบบ Single ไปก่อนครับ)
2. Statement เริ่มเดินบัญชีให้ดีๆ ใน 6 เดือน ก่อนจะยื่นของ VISA
   * ควรเป็น Statement ที่เงินเดือนเข้า เพื่อยืนยันว่าเราเป็นพนักงานของบริษัทจริงๆ
   * ควรมีเงินคงเหลือในบัญชีไม่น้อยกว่า งบประมาณที่ใช้ในการเดินทาง เช่น ไปเที่ยว 6 วัน ใช้เงินวันละ 5,000 บาท ก็ควรมีเงินเหลือในบัญชีไม่น้อยกว่า 30,000 บาท
   * เจ้าของกิจการ ควรมี Statement ของส่วนตัวไม่น้อยกว่างบประมาณที่ใช้ในการเดินทางเช่นกันครับ
3. พนักงานเงินเดือน อย่าลืมขอหนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ กับนายจ้างล่วงหน้าก่อน เพราะบางที่กว่าจะได้หนังสือรับรองใช้เวลาเป็นเดือนก็มีครับ
4. จองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ พร้อมโรงแรมที่พักให้เรียบร้อย
5. เอกสารสำหรับยื่นวีซ่า สามารถใช้ได้ 3 ภาษา คือ จีน อังกฤษ และภาษาไทย ครับ หากเป็นภาษาอื่นจะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ และมีผู้รับรองเอกสารโดย Notary Public ซึ่งก็คือ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศครับ
6. กรอกใบสมัคร VISA Online ให้ครบถ้วนที่เว็บ https://visawebapp.boca.gov.tw พร้อมพิมพ์ออกมา (แนะนำให้พิมพ์แบบ Laser เนื่องจากมีรหัส QR Code และ Barcode อยู่ในชุดเอกสารนี้ครับ)
   เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้จดเลข Applicant No. ไว้สำหรับพิมพ์แบบฟอร์มนี้ (หากลืมต้องกรอกใหม่ครับ)

ตัวอย่างแบบฟอร์มใบสมัคร VISA ที่พิมพ์ออกมาจากอินเตอร์เน็ทครับ

ยื่นขอวีซ่า ใช้เอกสารอะไรบ้าง

เอกสารทั้งหมดที่ใช้ในการยื่นวีซ่านั้นจะต้องใช้ตัวจริง และสำเนาประกอบด้วยครับ โดยใช้เอกสารดังนี้ครับ

1. หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน (ถ้ามีการออกหนังสือเดินทางใหม่ (Renewed Passport) เจ้าหน้าที่อาจขอหนังสือเดินทางฉบับเดิมเพื่อการอ้างอิง)
   * โดยหนังสือเดินทางจะต้องไม่มีข้อความว่า Prohibited from entering ROC ปรากฎอยู่
2. ใบสมัคร VISA Online ให้ครบถ้วน พร้อมกับลงนาม เว็บสำหรับกรอกใบสมัคร VISA Online คือ https://visawebapp.boca.gov.tw. 
3. รูปถ่ายสี ขนาด 2"x 2" พื้นหลังสีขาว ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 ใบ
4. สำเนาหนังสือเดินทาง
5. เอกสารยืนยันการจองตั๋วเครื่องบินเดินทางไป-กลับ 
6. หลักฐานที่แสดงฐานะทางการเงิน ได้แก่
   * Statement หรือ Book bank ที่แสดงรายการฝาก-ถอน ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
   * หาก Statement หรือ Book bank ไม่เพียงพอให้แสดงเอกสารเพิ่มเติม คือ เอกสารแสดงการครอบครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ / หนังสือรับรองภาษี
7. หนังสือรับรองการทำงาน
   * กรณีเจ้าของธุรกิจ: ให้แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนหรือใบอนุญาต โดยจะต้องปรากฎชื่อของผู้ยื่นขอ VISA
   * กรณีลูกจ้าง: หนังสือรับรองการทำงาน / สลิปเงินเดือน / เอกสารการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
   * กรณีนักเรียน/นักศึกษา: หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นหนังเรียน/นักศึกษา, บัตรประจำตัวนักเรียน/นักศึกษา
8. ผู้สมัครสมัครที่อายุน้อยกว่า 20 ปี (เด็ก) จะต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง และเอกสารแสดงความสัมพันธ์
9. ผู้สมัครที่อายุมากกว่า 60 ปี อาจได้รับการยกเว้นเรื่องหนังสือรับรองการทำงาน แต่จะต้องมีหลักฐานยืนยันว่าตนเองมีฐานะการเงินที่เพียงพอ
10. หากผู้สัมครถือ หรือ เคยถือ ROC Passport จะต้องใช้สำเนาหนังสือเดินทาง ROC
11. เจ้าหน้าที่กงสุลมีสิทธิ์ที่จะขอเอกสารเพิ่มเติมหรือสัมภาษณ์ผู้สมัครถ้ามีความจำเป็น ผู้สมัครที่ได้รับวีซ่าภายใน 1 ปี หรือ เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่อาศัยถาวร (Permanent resident certificate) ภายใน 1 ปี ที่ออกให้โดย U.S.A., Canada, Japan, U.K., Schengen Convention countries, Australia or New Zealand มีสิทธิ์ยกเว้นเอกสารบางส่วน โดยต้องแสดงหลักฐานเมื่อยื่นใบสมัคร
12. เอกสารเพิ่มเติมที่ต้องแสดงสำหรับ การขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว (Tourism):
    กำหนดการเดินทาง (Travel Itinerary) ต้องมีข้อมูลแผนการท่องเที่ยว (ว่าไปที่ไหนบ้าง) ข้อมูลเที่ยวบิน (ไปกลับ) ข้อมูลการจองโรงแรม

การยื่นเอกสาร VISA

การยื่นขอ VISA สามารถยื่นด้วยตนเอง หรือฝากเพื่อน หรือฝากตัวแทนยื่นได้ครับ ในอินเตอร์เน็ทมีเว็บไซต์ที่บริการยื่น/รับวีซ่าไต้หวัน โดยคิดค่าบริการ 500 บาทต่อคน นัดรับเอกสารตาม BTS ก็มีครับ

แต่ถ้าใครต้องการยื่นด้วยตนเองก็ให้มายื่นที่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (Taipei Economic and Cultural Office in Thailand) อยู่ที่ชั้น 20 อาคาร Empire Tower หากเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงที่สถานีช่องนนทรี ออกที่ทางออก 5 ครับ การเข้าออกที่ตึก Empire Tower จะต้องนำบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ ไปแลกบัตรเพื่อเข้าตึกด้วยครับ

สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย เปิดวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ 

เวลาทำการ:
09:00 - 11:30 (สำหรับยื่นวีซ่า)          
13:30 - 15:00 (สำหรับรับวีซ่า)
วันหยุด: หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ / วันหยุดนักขัตฤกษ์ของไทย / วันหยุดตามประกาศของรัฐบาลไทย / วันตรุษจีน / วันชาติไต้หวัน (วันที่ 10 ตุลาคมทุกปี)

สำหรับคนที่จะไปยื่นขอวีซ่า ควรไปตั้งแต่ 07.30น. เมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่บอกให้เราเข้าแถวรอก่อนครับ ก็รอจนกระทั่งสำนักงานเปิดตอน 09.00น. ถึงจะเริ่มเข้าไปกดรับบัตรคิว ยิ่งไปเช้าเราก็จะได้คิวแรกๆ ครับ

หลังจากที่ยื่นเสร็จเจ้าหน้าที่จะให้เอกสารสีเหลืองๆ เป็นใบรับวีซ่าคืนครับให้นำใบนี้ไปยื่นที่เค้าเตอร์ครับ

การขอรับวีซ่า

หลังจากที่เรายื่นวีซ่าไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 วันทำการหลังจากวันที่ยื่น เช่น ยื่นวันจันทร์ สามารถไปรับได้วันพฤหัสตอนบ่ายครับ

ตอนไปขอรับวีซ่าผมไปต่อคิวตั้งแต่ 12.30 ครับ ได้บัตรคิวที่ 24 กว่าจะได้วีซ่า ประมาณ 14.30 ครับ ชิลๆ แค่ 3 ชั่วโมงเองครับ ^^"

สรุป

การขอวีซ่าไต้หวันทำได้ไม่ยากครับ หากไปยื่นขอเองต้องลางานอย่างน้อย 2 วัน (วันนึงไปยื่น อีกวันไปรับ) หรือถ้าไปกันกับเพื่อนก็ผลัดกันไปได้ครับ ใครจะไปรับก็ได้ ใครที่อยากเก็บวันลาไว้ไปเที่ยวให้หนำใจ แนะนำให้ฝากยื่นมากกว่าครับ

วิธีจองตั๋วรถไฟในไต้หวัน (Part I)

การเดินทางในไทเปค่อนข้างสะดวกมากครับ นอกจากรถไฟจะตรงเวลาแล้ว ทางการรถไฟยังเปิดโอกาสให้เราจองตั๋วรถไฟได้ล่วงหน้า และชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ทครับ เท่านี้เราก็เที่ยวไต้หวันอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าตั๋วจะเต็ม และไม่ต้องเจียดเวลาเที่ยวที่อื่นเพื่อมาต่อคิวซื้อตั๋วผ่านตู้แล้วครับ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าจองตํ๋วรถไฟ TRA ต้องทำยังไงบ้าง แบบละเอียดๆ เลยครับ

สิ่งที่ต้องมีก่อนการจองตั๋ว 

การจองตั๋วรถไฟไต้หวัน ต้องมี 2 สิ่งครับ

1. เลขที่หนังสือ Passport ของตัวเอง
2. บัตรเครดิต สำหรับจ่ายค่าตั๋วผ่านทางอินเตอร์เน็ท

เว็บไซต์ที่ใช้ในการจองตั๋ว

การจองตั๋วสามารถทำได้ทั้ง 3 เว็บ เนื่องจากเป็นฐานข้อมูลเดียวกัน

• เว็บดั้งเดิม http://railway.hinet.net/net_eng.htm
  
• เว็บใหม่ http://twtraffic.tra.gov.tw/twrail/English/e_index.aspx
  
• เว็บใหม่กว่า http://www.railway.gov.tw/en/booking.aspx
  

วิธีใช้รถไฟฟ้า MRT ไต้หวัน

รถไฟฟ้า MRT (Metro Taipei) เป็นรถไฟฟ้าที่ให้บริการในเมืองไทเป และเมืองใกล้เคียง ทั้งบนดิน และใต้ดิน ใครที่เคยใช้ MRT ของบ้านเรา บอกได้เลยว่า บ้านเราเหมือนกันกับของไทเปเลยครับ Metro Taipei มีให้บริการ 5 สาย ด้วยกันดังนี้


สายสีน้ำตาล - เหวินหูเซี่ยน


สายสีแดง - ตั้นสุ่ย-ซิ่นอี้เซี่ยน


สายสีเขียว - ซงซาน-ซินเตี้ยนเซี่ยน


สายสีเหลือง - จงเหอ-ซินหลูเซี่ยน


สายสีน้ำเงิน - ป่านหนันเซี่ยน

EasyCard ไต้หวัน บัตรเดียวจบ

การจ่ายเงินในประเทศนี้นอกจากจะจ่ายเป็นเงินสด บัตรเครดิตแล้ว ที่นี่ยังมีบัตรเติมเงินแบบ EasyCard 悠遊卡 (โยโย๋ข่า) ที่ใช้แตะจ่ายเงินได้ครอบจักรวาล ไม่ว่าจะจับจ่ายใช้สอยในร้านสะดวกซื้อ หรือว่าเดินทางไปไหนมาไหน บัตรนี้บัตรเดียวเอาอยู่ชัวร์ !!

รูปร่างหน้าตาบัตร EasyCard (Wikipedia)

วิธีเดินทางในไต้หวัน

การเดินทางภายในประเทศไต้หวันมีหลายวิธี ส่วนใหญ่ก็จะใช้บริการขนส่งสาธารณะซึ่งค่อนข้างโอเคมาก มีระบบ GPS ติดตามว่า รถวิ่งไปถึงไหนแล้ว ทำให้การเดินทางที่นี่ค่อนข้างตรงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟที่นี่ เวลาออกกับเวลาถึงตรงเวลาเป๊ะ เรียกได้ว่าเหมือนกันกับญี่ปุ่นเลยครับ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า ระบบขนส่งในไต้หวัน มีอะไรบ้างครับ

เตรียมตัว เที่ยวไต้หวัน ทำไงบ้าง ?

เค้าว่ากันว่ายากที่สุด คือ การเริ่มต้น โดยเฉพาะการเริ่มต้นจากศูนย์ การไปเที่ยวไต้หวันสำหรับหลายๆ คนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรดี ตอนที่ผมเริ่มต้นก็งงๆ เหมือนกันครับ แต่โดยสรุปแล้วแบ่งได้ดังนี้ครับ

งบประมาณ

ผมไปกับเพื่อนผม รวมเป็น 2 คน ก็คุยกันว่า ไปเที่ยว งบไม่เกิน 20,000 บาท ถ้าบานปลายก็ไม่ควรเกิน 25,000 บาท ก็เลยคิดว่า ไป 6 วัน 5 คืน น่าจะเวิร์คสุด (จริงๆ ถ้ายิ่งไปกันเยอะตัวหารจะยิ่งถูกลงครับ)

ไปกี่วัน 

ครั้งที่ไปเมื่อช่วงหยุดวันปิยมหาราช 23 - 29  ตุลาคม 2558 ผมไป 6 วัน 5 คืน ตอนแรกคิดว่าถ้าไปมากกว่านี้อาจจะเบื่อ คิดถึงบ้านได้

หาข้อมูล

ประเทศนี้คือดีครับ มีข้อมูลเพียบพร้อมให้เราค้นหาเป็นภาษาอังกฤษครับ ตั้งแต่รถไฟ รถทัวร์ ข้อมูลการท่องเที่ยว ข้อมูลที่พัก ข้อมูลตัวอย่างทริป

เนื่องจากไต้หวันเป็นเกาะ ที่คั่นตรงกลางด้วยภูเขาครับ การท่องเที่ยวจะมี 3 ลักษณะ (ใหญ่ๆ) คือ

1. เมืองหลวง ไทเป และเมืองใกล้เคียง มีที่ให้เที่ยวเยอะมากครับ
2. ภาคตะวันตก - สถานที่ที่นิยมไปก็คือ ทะเลสาปสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake), ภูเขา อาหลี่ซาน (Alishan), ไถจง (Taichung), ฟาร์มแกะชิงจิ้ง (Cingjing Farm) สวิตเซอร์แลนด์ไต้หวัน
3. ภาคตะวันออก - อุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ (Taroko National Park), ฮัวเหลียน (Hualien)

Sun Moon Lake บรรยากาศดีมากๆ ครับ

เดือนที่เหมาะแก่การเดินทาง คือ ตุลาคม ถึง พฤษภาคม ครับ หลังจากนั้นก็เป็นช่วงหน้าฝน ไม่ค่อยน่าไปแล้วครับ

ตั๋วเครื่องบิน

มีข้อมูลที่จะไปเที่ยวแล้ว ก็เตรียมตัวและเตรียมเงินให้พร้อมในการกดตั๋วเครื่องบินราคาถูกครับ ข้อนี้ควรทำหลังจากที่ เริ่มหาข้อมูลว่าจะไปที่ไหนบ้าง ครับ แต่ช่วงที่ผมกำลังจะคิดว่า จะไปกันกี่วันดี มันมีโปรตั๋วถูกของสายการบิน Tiger Air พอดี และ Flight สวย ตกคนละ 5,127 บาท (ซื้อน้ำหนัก + อาหารเพิ่ม ตอนขากลับ) ก็เลยกดจองก่อนที่จะเริ่มหาข้อมูลครับ

สำหรับสายการบินที่บินตรงไปประเทศไต้หวันจะมี การบินไทย Thai Airways / Tiger Air / EVA Air / China Airlines

จองที่พัก จองตั๋วรถไฟ

ที่พักที่ไต้หวัน มีให้เลือกหลากหลายครับ ถ้าต้องการที่พักราคาไม่แพง แนะนำให้เดินทางพร้อมกัน 4 คน เพราะ Hostel ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบห้องน้ำรวม ห้องนึงนอนรวมกันได้ 4-6 คนครับ ถ้าไปครบขาก็เท่ากับว่าห้องนี้เป็นของเราแล้วครับ ^^

หากต้องการเดินทางข้ามเมือง โดยใช้รถไฟ (TRA) หรือ รถไฟความเร็วสูง (THSR) ควรจองตั๋วล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ทไปก่อนครับ โดยสามารถจองได้ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ เพราได้ส่วนลด 5% แต่ถ้าไปซื้อตั๋วหน้า Counter อาจจะไม่มีตั๋ว อดเที่ยวได้ครับ

แผนการเดินทาง

ควรทำแผนการเดินทางไปพร้อมๆ กันกับทุกๆ ขั้นตอน จะได้ไม่เสียเวลาครับ ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง แผนการเดินทางคร่าวๆ ของผมครับ

• วันที่ 1 - พิพิธภัณฑ์ กู้กง (National Palace Museum), Tamsui
  พัก Flip Flop Hostel
• วันที่ 2 - ไท่ ลู่ เก๋อ (Taroko),  Ximen
  พัก Flip Flop Hostel
• วันที่ 3 - จิ่วเฟิ่น (Jiufen) > เขาช้าง (Elephant Moutain), Taipei 101
  พัก Flip Flop Hostel
• วันที่ 4 - Sun Moon Lake
  พัก Laurel Villa 桂月村
• วันที่ 5 - Sun Moon Lake, ซื่อหลิน Shilin night market
  พัก City Inn Main Station Branch 1
• วันที่ 6 - วัดหลงซาน (Longshan Temple), ถนน Bopiliao

ขอวีซ่า ไต้หวัน

ปัจจุบันการเข้าประเทศไต้หวันยังต้องขอวีซ่าจาก สถานกงศุล ตั้งอยู่ที่ตึกเอ็มไพร์ สาทร ชั้น 20 อยู่นะครับ โดยการขอวีซ่าครังนึง สามารถเดินทางได้สูงสุด 14 วัน ต่อครั้ง สามารถขอวีซ่าได้ 2 แบบ คือ แบบ Single Entry และ Multiple แต่ถ้าใครเพิ่งท่องเคยไปไต้หวันครั้งแรก แนะนำให้ขอแบบ Single ดีกว่าครับ

รายละเอียดที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า คร่าวๆ มีดังนี้ครับ (เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนะครับ)

1. Passport ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน (A passport valid at least 6 months with blank page(s)
2. ใบสมัครขอวีซ่า (Visa Application) ซึ่งต้องกรอกผ่านอินเตอร์เน็ท ตามเว็บนี้ครับ https://visawebapp.boca.gov.tw
3. รูปถ่ายสี 2x2 นิ้ว  พื้นหลังเป็นสีขาว ที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
4. สำเนาหน้า Passport (Photocopy of the passport’s basic information page and the immigration stamp page showing entry into Thailand.)
5. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ที่ได้รับการยืนยัน Confirmed แล้ว)
6. หลักฐานทางการเงิน
   * Bank Statement หรือ สมุดบัญชีเงินฝาก ที่แสดงรายการฝาก/ถอน ย้อนหลัง + เดือน
   * ในกรณีที่ Bank Statement มีข้อมูลไม่เพียงพอ ให้ใช้ เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองครอบครอง หรือ เอกสารทางภาษี ประกอบ
7. หลักฐานการจ้างงาน เช่น หนังสือรับรอง / สลิปเงินเดือน / เอกสารทางภาษี เป็นต้น
8. รายละเอียดการเดินทาง (Travel Itinerary) ประกอบไปด้วย ข้อมูลเที่ยวบิน / ข้อมูลการจองโรงแรม / ข้อมูลแผนการท่องเที่ยว

จัดกระเป๋า ลาพักร้อน มอบหมายงาน แลกเงิน

เมื่อได้วีซ่า ก็เตรียมตัวแพคกระเป๋า ลาพักร้อน มอบหมายงานให้เรียบร้อยครับ ช่วงระหว่างนี้ก็แนะนำให้หาข้อมูล ที่กิน ที่เที่ยวเล็กๆ น้อยเพิ่มเติม ครับ

สกุลเงินที่ใช้ในประเทศไต้หวัน เรียกว่า New Taiwan Dollar (TWD หรือ NT$)  มีหน่วยเป็น Yuan แต่ว่า เป็นคนละ Yuan กับสกุลเงินของประเทศจีน อัตราแลกเปลี่ยนจากเงินไทย เป็น NT$ จะอยู่ที่ ประมาณ 1.1 - 1.15  บาท ต่อ 1 NT$ ครับ การแลกเงินไต้หวันสามารถแลกได้ตามธนาคาร หรือ Super Rich โดยต้องเตรียมสำเนา Passport ประกอบการแลกด้วยนะครับ

ตัวอย่างธนบัตร และเหรียญที่ใช้ในไต้หวันครับ

Credit: http://www.sacas.com.au/adoptingtaiwancurrency.htm

มาเที่ยวไต้หวันกันเถอะ

เที่ยวไต้หวัน .. หลายคนถามว่าไต้หวันมีให้เที่ยวหรอ ท่ามกลางกระแสการท่องเที่ยวญี่ปุ่นถาโถมมาอย่างหนัก เรียกได้ว่าหน้าวอลล์ใครไม่มีโพสต์เกี่ยวกับญี่ปุ่นนี่ถือว่าคุณแทบจะออกจากวงการ Social Media ได้เลยนะ

นี่คือเหตุผลที่ทำไมคุณถึงต้องไปเที่ยวไต้หวัน